ปณิธาน

หลักสูตรวิทยาศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาเทคนิคการแพทย์ ของมหาวิทยาลัยนเรศวร มุ่งผลิตบัณฑิตที่มีคุณภาพโดยให้มีความรู้ทางวิชาการ เชี่ยวชาญในวิชาชีพ มีคุณธรรม จริยธรรม และจรรยาบรรณแห่งวิชาชีพ ตลอดจนมีความคิดสร้างสรรค์ เพื่อการประยุกต์และพัฒนางานที่เป็นองค์รวมในกลุ่มวิชาชีพทางด้านวิทยาศาสตร์สุขภาพ ในอันที่จะเสริมสร้างและพัฒนาคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ของประชากรในประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเขตภาคเหนือตอนล่างให้ดีขึ้นแบบยั่งยืน ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อส่วนรวมและสังคมของประเทศ

ข่าวสารในแวดวงเทคนิคการแพทย์ วันพุธที่ 10 มกราคม 2550

สธ. เตรียมออกมาตรฐานบริการสเต็มเซลล์

     ปัจจุบัน เรื่องสเต็มเซลล์ (Stem Cell) หรือ เซลล์ต้นกำเนิด เป็นเรื่องที่ได้รับความสนใจจากวงการแพทย์มากขึ้น มีการนำเสนอผ่านสื่ออย่างต่อเนื่องและแพร่หลาย สเต็มเซลล์ เป็นเซลล์อ่อนที่พร้อมจะเจริญเติบโต แบ่งตัวเองขึ้นมาใหม่ และเปลี่ยนแปลงเพื่อไปทำหน้าที่อย่างใดอย่างหนึ่ง ขณะที่เซลล์แต่ละเซลล์ในร่างกายของมนุษย์ เช่น เซลล์กล้ามเนื้อหัวใจ หรือเซลล์สมอง เมื่อเซลล์เหล่านี้ตายไปแล้ว จะไม่มีเซลล์ใหม่มาทดแทน แต่สเต็มเซลล์ หรือเซลล์ต้นกำเนิด ซึ่งเป็นเซลล์อีกกลุ่มหนึ่ง จะสามารถพัฒนาไปเป็นเซลล์ที่ทำหน้าที่เฉพาะเจาะจงได้ ทั้งนี้ สเต็มเซลล์แบ่งออกเป็น 2 ประเภทตามแหล่งกำเนิด คือ สเต็มเซลล์ที่มีอยู่แล้วในร่างกายของมนุษย์โดยแฝงอยู่ในอวัยวะและเนื้อเยื่อต่างๆ เช่นในเลือด ไขกระดูก สมอง ตับอ่อน รกและสายสะดือ เป็นต้น
ส่วนสเต็มเซลล์อีกประเภทหนึ่งเรียกว่า สเต็มเซลล์จากเอ็มบริโอ หรือ embryonic stem cell เป็นสเต็มเซลล์ที่ได้จากการเพาะเลี้ยงเอ็มบริโอ หรือกลุ่มเซลล์ที่เป็นตัวอ่อน

     ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อกระแสเรื่องสเต็มเซลล์ หรือเซลล์ต้นกำเนิดได้รับความสนใจอย่างสูง และเริ่มมีการใช้เซลล์ต้นกำเนิดบ้างแล้ว กระทรวงสาธารณสุข โดยกองการประกอบโรคศิลปะ กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ จึงเตรียมออกมาตรฐานการบริการเซลล์ต้นกำเนิดเพื่อใช้สำหรับตนเอง เพื่อให้การให้บริการในสถานพยาบาลเป็นไปอย่างมีมาตรฐาน และสามารถคุ้มครองผู้ใช้บริการได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยยกร่างประกาศกระทรวงฯ เรื่อง “มาตรฐานการบริการเซลล์ต้นกำเนิดเลือดสายสะดือ เพื่อใช้สำหรับตนเอง” ขึ้น และนำออกเผยแพร่ให้ผู้เกี่ยวข้องได้ร่วมแสดงความคิดเห็น เพื่อแก้ไขปรับปรุงร่างดังกล่าวให้มีความเหมาะสมยิ่งขึ้น

     ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ในร่างประกาศฯ ดังกล่าว ได้กำหนดให้มีผู้ประกอบวิชาชีพเทคนิคการแพทย์ เป็นผู้รับผิดชอบในการให้บริการเซลล์ต้นกำเนิด เลือดสายสะดือเพื่อใช้สำหรับตนเอง ร่วมกับผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมด้วย ทั้งนี้ ผู้ประกอบวิชาชีพเทคนิคการแพทย์ จะต้องผ่านการฝึกอบรมหรือมีประสบการณ์ ในการเก็บเซลล์ต้นกำเนิดเลือดสายสะดือเพื่อใช้สำหรับตนเอง จากหน่วยงานหรือองค์กรที่มีประสบการณ์ในการเก็บรักษาเซลล์ต้นกำเนิดเลือดสายสะดือเพื่อใช้สำหรับตนเอง โดยทำหน้าที่ เป็นผู้อำนวยการด้านห้องปฏิบัติการ มีหน้าที่รับผิดชอบเกี่ยวกับการแยกเซลล์ การทดสอบต่างๆ และการเก็บเซลล์ต้นกำเนิดเลือดสายสะดือเพื่อใช้สำหรับตนเอง ไว้ในไนโตรเจนเหลว ผู้สนใจสามารถอ่านรายละเอียดได้จาก http://www.mtcouncil.org/dbweb/file_attach/10Jan200735-AttachFilestem_cell.doc ข่าวคืบหน้าจะนำเสนอให้ทราบต่อไป